OpenAI ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 2015 โดยกลุ่มผู้ประกอบการและนักวิจัยด้านเทคโนโลยีชั้นนำได้แก่
• Elon Musk – ผู้ก่อตั้ง Tesla และ SpaceX
• Sam Altman – อดีตประธาน Y Combinator และต่อมาเป็น CEO ของ OpenAI
• Greg Brockman – อดีต CTO ของ Stripe
• Ilya Sutskever – นักวิจัยด้าน AI ระดับโลก อดีตทีมงาน Google Brain
• Wojciech Zaremba – นักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์
ปัจจุบันแซม อัลต์แมนดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ OpenAI เป้าหมายของ OpenAI คือ การสร้าง AI ที่คิดได้เหมือนมนุษย์ หรือที่นักพัฒนา AI เรียกกันว่า Artificial General Intelligence (AGI)
แซม อัลต์แมนคือบุคคลที่เปลี่ยนโลกต่อจากสตีฟ จ็อบส์และอีลอน มัสก์
ต่อไปนี้คือ 10 กฎทองแห่งความสำเร็จของแซม อัลต์แมน
1. เชื่อในสิ่งที่คุณทำ
เชื่อในสิ่งที่คุณทำเป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าคุณไม่เชื่อในสิ่งที่คุณทำ คุณก็ไม่สามารถก้าวข้ามสิ่งแย่ๆที่คุณต้องเจอระหว่างทางได้ สิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้คุณออกไปทำงานคือการที่เราได้สนุกกับงานที่เราทำ
สิ่งที่คนหลายคนต้องการคือการทำเงิน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือค้นหาภารกิจ การรู้ว่าเราทำไปทำไมจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทำงานไปได้ตลอด
2. สร้างสินค้าที่ดีที่สุด
ถ้าคุณไปดูบริษัทที่อยู่มาหลายสิบปี บริษัทเหล่านี้เป็นผู้ชนะเพราะสินค้า แน่นอนว่าการขายและการตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญ คุณต้องทำการขายและการตลาดเพราะถ้าคุณมีสินค้าที่ดีที่สุดในโลกแต่คุณไม่ทำการตลาดสินค้าก็จะขายไม่ได้
Apple เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก Apple ผลิตสินค้าที่ดีที่สุด สินค้าของ Apple ทั้งหมดเป็นสินค้าที่ดีที่สุด AirBNB เป็นผู้ชนะเพราะบริการที่นำเสนอ Facebook เป็นผู้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเหมือนกัน
เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้ชนะในระยะยาวโดยไม่ได้ผลิตสินค้าที่ดีที่สุด
3. อย่าไปสนใจคำพูดที่บอกว่าธุรกิจนี้เป็นไปไม่ได้
อย่าไปสนใจคำพูดของคนที่บอกว่าไอเดียการทำธุรกิจของคุณมันแย่ วิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่าไอเดียการทำธุรกิจของคุณดีหรือแย่คือสร้างมันขึ้นมา สิ่งที่ทำให้ Silicon Valley แตกต่างจากที่อื่นบนโลกคือการเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้
ที่ Silicon Valley เมื่อมีคนพูดว่าฉันอยากสร้างบริษัทสตาร์ทอัพ ที่ Silicon Valley จะพูดว่ามีเหตุผลอะไรที่จะทำให้มันประสบความสำเร็จ การพูดว่าสตาร์ทอัพนี้เป็นไปไม่ได้ เป็นคำพูดที่บ่งบอกว่านิสัยไม่ดี
4. อย่ายอมแพ้เร็วเกินไป
ไม่มีคำตอบที่สมบูรณ์แบบว่าควรล้มเลิกตอนไหน การล้มเลิกควรมาจากตัวเราเองมากกว่าให้คนอื่นหรือลูกค้ามาบอก อะไรที่ทำแล้วมันไม่เวิร์คหรือไม่มีไอเดียที่จะไปต่อจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าถึงเวลาล้มเลิกได้แล้ว
5. สร้างสิ่งที่คนต้องการ
บริษัทสตาร์ทอัพจะประสบความสำเร็จได้ต้องสร้างสิ่งที่คนต้องการ บริษัทสตาร์ทอัพต้องสร้างสินค้าที่ลูกค้าหรือผู้ใช้งานต้องการ
6. เปลี่ยนแปลงโลก
ถ้าคุณทำงานให้ AirBNB ซึ่งคุณก็รู้ว่า AirBNB กำลังเติบโตและคุณก็กำลังเติบโตไปกับงานที่คุณทำ แต่ถ้าคุณมีไอเดียที่จะเปลี่ยนแปลงโลกแล้วคุณไม่ลงมือทำ คุณอาจจะเสียใจในภายหลัง การทำอะไรที่เปลี่ยนแปลงโลกจะมีทำให้คุณมีชีวิตการทำงานที่น่าพึงพอใจมากกว่า ถ้าคุณทำงานกับบริษัทที่ประสบความสำเร็จ คุณก็จะพลาดโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโลก
7. กล้าเสี่ยง
การเป็นคนที่อายุน้อย ไม่เป็นที่รู้จัก และยากจน มันคือสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้น เพราะมันจะทำให้คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ ความเสี่ยงคือการที่คุณเสียใจที่ไม่ได้ลงมือทำ ถ้าคุณมีไอเดียที่คุณมีแพชชันและคุณคำนวณแล้วว่าคุณสามารถเสี่ยงได้ที่จะเริ่มสร้างบริษัทเพื่อทำอะไรซักอย่าง มันก็เป็นสิ่งที่เสี่ยงได้
8. จ้างคนให้ดี
ปัญหาทีมงานคือปัญหาใหญ่ที่ทำให้สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการของ YC ล้มเหลว สตาร์ทอัพล้มเหลวจากภายในมากกว่าแพ้คู่แข่ง ถ้าคุณมีทีมที่ดีสตาร์ทอัพของคุณจะเติบโต แต่ถ้าคุณมีทีมที่ดีมากๆสตาร์ทจะทำผลงานออกมาดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณไม่จ้างคนให้ดีบริษัทของคุณก็จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
เมื่อบริษัทของคุณใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สิ่งเดียวที่ CEO ต้องตัดสินใจคือกลยุทธ์ของบริษัท ใครคือคนที่จะมาทำงานในบริษัท งานต่างๆจะเป็นหน้าที่ของคนอื่นที่จะเป็นคนทำ การเอาคนออกเร็วก็เป็นสิ่งสำคัญ คนที่ไม่ใช้ A Player
9. โฟกัส
เมื่อคุณทำงาน ห้ามหลุดโฟกัส อย่าเอาเวลาทำงานไปทำอะไรที่ไม่ใช่การสร้างธุรกิจ
10. เริ่มต้นเล็กๆ
ผู้ก่อตั้งบริษัทมักจะรีบเร่งให้บริษัทโตไวๆ คุณต้องเริ่มจากการสร้างจำนวนผู้ใช้งานขนาดเล็กก่อน คุณสามารถเลือกได้ว่าจะสร้างสินค้าที่คนจำนวนมากชอบหรือสร้างสินค้าที่คนจำนวนน้อยรัก แน่นอนว่าคุณอยากสร้างสินค้าที่คนจำนวนน้อยรักสินค้านั้นจริงๆ