ในยุคดิจิทัลที่การซื้อขายผ่านออนไลน์กลายเป็นพฤติกรรมหลักของผู้บริโภค การเลือกว่าจะเปิดร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเองหรือใช้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ อย่าง Lazada, Shopee หรือ TikTok Shop ถือเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ซึ่งแต่ละทางเลือกมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
1. การเปิดร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเอง
ข้อดี
สร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน
เว็บไซต์ที่เป็นของตัวเองช่วยให้ผู้ขายออกแบบภาพลักษณ์ตามเอกลักษณ์สินค้าได้เต็มที่ ลูกค้าประจำจดจำแบรนด์ง่ายขึ้น และมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อซ้ำบ่อยขึ้น
ควบคุมต้นทุนค่าธรรมเนียม
ไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายเหมือนบนแพลตฟอร์ม จ่ายเพียงค่าบริการโฮสติ้งหรือคลาวด์รายเดือน ซึ่งช่วยให้บริหารกำไรได้ชัดเจนกว่า
อิสระด้านการตลาดและบริการหลังการขาย
สามารถออกแบบโปรโมชั่น ระบบสะสมแต้ม หรือบริการหลังการขายได้ตามต้องการ เช่น ส่งคูปองส่วนลดแนบไปกับพัสดุ เพื่อดึงลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำที่เว็บไซต์โดยตรง
สร้างความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty)
เมื่อเว็บไซต์เป็นช่องทางหลัก ลูกค้าจะจดจำและรู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น
ข้อจำกัด
ต้องเรียนรู้และลงทุนด้านเทคนิค
แม้ใช้เว็บไซต์สำเร็จรูป เช่น Seasalepage ผู้ขายก็ต้องเรียนรู้การใช้งานและออกแบบร้านค้าให้เหมาะกับสินค้า
ต้องหาลูกค้าเอง
การดึงดูดทราฟฟิกต้องอาศัย SEO โฆษณาออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทันทีเหมือนแพลตฟอร์ม
2. การเปิดร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
ข้อดี
เข้าถึงลูกค้าจำนวนมหาศาลทันที
แพลตฟอร์มมีฐานผู้ใช้งานเป็นล้านคนทุกวัน ทำให้สินค้ามีโอกาสถูกค้นพบตั้งแต่วันแรก
ไม่ต้องลงทุนด้านระบบเว็บไซต์
ผู้ขายสามารถลงสินค้าและเริ่มขายได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การปรับแต่งเว็บไซต์
แพลตฟอร์มช่วยทำการตลาด
ระบบโฆษณาในตัว แคมเปญลดราคา และฟีเจอร์ดันสินค้า ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าใหม่ได้ง่าย
ข้อจำกัด
ค่าธรรมเนียมการขาย
แพลตฟอร์มจะหักเปอร์เซ็นต์จากยอดขายทุกครั้ง ซึ่งอาจกระทบกำไรสุทธิ
การแข่งขันสูง
มีร้านค้าจำนวนมากขายสินค้าคล้ายกัน ทำให้ผู้ขายต้องแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่นอย่างหนัก
ข้อจำกัดตามนโยบายแพลตฟอร์ม
ผู้ขายต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ หากละเมิดอาจถูกระงับบัญชีหรือถูกจำกัดสิทธิ์การขาย
3. กลยุทธ์การเลือกใช้
สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่
การเริ่มขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเหมาะที่สุด เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าทันทีโดยไม่ต้องลงทุนด้านเทคนิคมากนัก และใช้เป็นช่องทางสร้างฐานลูกค้า
สำหรับผู้ที่มีฐานลูกค้าประจำแล้ว
การสร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของตัวเองช่วยเพิ่มความมั่นคงในระยะยาว และลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มมากเกินไป
4. กลยุทธ์ Hybrid: ผสมผสานทั้งสองช่องทาง
แนวทางที่ดีที่สุดคือการใช้ กลยุทธ์แบบ Hybrid หรือการขายทั้งบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและบนเว็บไซต์ของตัวเองไปพร้อมกัน
ใช้แพลตฟอร์มเพื่อ หาลูกค้าใหม่ ใช้เว็บไซต์ของตัวเองเพื่อรักษาฐานลูกค้าประจำ
ตัวอย่างเช่นแบรนด์ระดับโลกอย่าง Nike, Adidas, Uniqlo ที่แม้จะมีขายบนแพลตฟอร์ม แต่ก็ยังเน้นการขายตรงผ่านเว็บไซต์เพื่อสร้างประสบการณ์แบรนด์และความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง
สรุป
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็ว ใช้งานง่าย แต่ต้องยอมรับการแข่งขันสูงและค่าธรรมเนียม
เว็บไซต์ของตัวเอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานลูกค้าแล้ว ต้องการสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืน และมีอิสระในการบริหารจัดการ
กลยุทธ์ผสมผสาน (Hybrid) เป็นทางเลือกที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องทั้งด้านยอดขายและภาพลักษณ์แบรนด์