E-Commerce คืออนาคตของการค้าขาย และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าจะชะลอ การที่ร้านค้าปรับตัวมาขายออนไลน์ควบคู่กับหน้าร้านจริง จึงไม่ใช่แค่ “ตัวเลือก” อีกต่อไป แต่คือ “ความจำเป็น” หากคุณต้องการอยู่รอดและเติบโตในยุคดิจิทัล บทความนี้จะแชร์ 5 กลยุทธ์สำคัญ ที่จะทำให้ร้านของคุณขายได้ทั้งสองช่องทางไปพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

1. เปลี่ยนชั้นวางสินค้าให้เป็นคลังสินค้า

แทนที่จะมีสินค้าหน้าร้านเพื่อโชว์และขายแค่ลูกค้าที่เดินเข้ามา คุณสามารถใช้ชั้นวางสินค้าเป็นคลังย่อมๆ สำหรับขายออนไลน์ได้ด้วย

• เมื่อมีออเดอร์ออนไลน์ พนักงานสามารถหยิบสินค้าจากชั้นวางมาบรรจุและส่งต่อให้บริษัทขนส่งได้ทันที

• วิธีนี้ช่วยประหยัดต้นทุน เพราะไม่จำเป็นต้องเช่าพื้นที่เพิ่มเติมใน Fulfillment Center

• ลูกค้าออนไลน์ก็จะได้รับสินค้ารวดเร็วขึ้น เพราะจัดการส่งจากหน้าร้านได้เลย

2. แบ่งทีมงานให้ชัดเจนระหว่างหน้าร้านและออนไลน์

การทำงานควรมีความชัดเจน เพื่อไม่ให้ทีมงานสับสนและเสียประสิทธิภาพ

• ทีมหน้าร้านดูแลการขายกับลูกค้าที่เข้ามาซื้อจริง

• ทีมออนไลน์ดูแลการหยิบสินค้า แพ็ค และประสานงานการจัดส่ง

การแยกทีมชัดเจนจะช่วยให้ทั้งสองฝั่งทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และลูกค้าทั้งสองช่องทางได้รับการบริการที่รวดเร็ว

3. สร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของคุณเอง

แม้การขายผ่าน Marketplace จะช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้า แต่ เว็บไซต์ของคุณเองคือ “ทรัพย์สิน” ที่คุณควบคุมได้เต็มที่

• เว็บไซต์ที่ดีควรมีระบบตะกร้าสินค้าและการชำระเงินที่ง่ายและรวดเร็ว

• รองรับการใช้งานทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์

• สามารถเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น อีเมล เบอร์โทร เพื่อทำการตลาดต่อเนื่อง (Retargeting) ได้

4. เปลี่ยนกล่องพัสดุให้เป็นสื่อโฆษณา

แทนที่จะส่งกล่องเปล่าๆ ไปถึงมือลูกค้า ลองพิมพ์ชื่อเว็บไซต์หรือ QR Code ลงบนกล่องพัสดุ

• ทุกครั้งที่ลูกค้ารับพัสดุ เขาจะเห็นแบรนด์คุณซ้ำๆ

• หากคนอื่นเห็นกล่อง อาจสนใจและกลายเป็นลูกค้าใหม่

นี่คือกลยุทธ์การตลาด “โฆษณานอกบ้านผ่านพัสดุ” ที่ประหยัดและได้ผล

5. เพิ่มตำแหน่ง Chief Technology Officer (CTO)

Thomas M. Siebel ผู้ก่อตั้ง C3 AI เคยกล่าวว่า ทุกองค์กรควรมี CTO เพื่อดูแลการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation)

• CTO จะเข้ามาดูแลเรื่องการพัฒนาเว็บไซต์ ระบบคลาวด์ และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ

• นำ AI มาช่วยในการทำงานและพัฒนาระบบอัตโนมัติที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าให้สะดวกรวดเร็ว

• ทำให้ธุรกิจของคุณไม่หยุดนิ่ง และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

สรุป

การทำให้ร้านขายได้ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณ จัดการสินค้าดี ทีมงานชัดเจน มีเว็บไซต์ของตัวเอง ใช้พัสดุเป็นสื่อโฆษณา และมี CTO ดูแลด้านเทคโนโลยี

นี่ไม่ใช่แค่การเพิ่มช่องทางขาย แต่คือการสร้าง ธุรกิจที่ยืดหยุ่น แข็งแรง และเติบโตได้ในระยะยาว